แนะนำให้อ่าน

วันอังคารที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

การเลี้ยงตุ๊กแก

“ตุ๊กแก” แก้เซ็กซ์เสื่อม-บำรุงสุขภาพ

เมนูหายาก-- ภาพแฟ้มเอเอฟพีเดือน ก.ย.2552 ตุ๊กแกสายพันธุ์ใหม่อีกพันธุ์หนึ่งมีหน้าตาแบบมนุษย์ต่างดาว ในภาพยนตร์ของฮอลลีวู้ด ตุ๊กแกกำลังเป็นอาหารจานโปรดที่ได้รับความนิยมในเวียดนาม ยิ่งมีหน้าตาประหลาด ยิ่งมีสีสันประหลาดก็ยิ่งขายได้ราคาดี.
      
ไซ่ง่อนเถียบถิ - การกินอาหารจานแปลกถือเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของเอเชีย ซึ่งส่วนมากมักจะเป็นอาหารป่า โดยเฉพาะเมนูจากสัตว์ที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์โดยคิดว่ามีผลดีต่อสุขภาพและสมรรถภาพทางเพศ เช่น เสือ สำหรับบำรุงกำลัง หรือนอแรดเพื่อเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ เป็นต้น แต่ในเวียดนามที่ไม่ว่าจะเป็นสัตว์จำพวกหนู กบ พังพอน หรือค้างคาว ก็เป็นเรื่องปกติที่จะพบเมนูเหล่านี้อยู่บนโต๊ะอาหารตามร้านต่างๆ ในเมือง 
      
    
   เมนูอาหารป่าล่าสุดที่กำลังเป็นที่นิยมในตอนนี้ คือ เมนูเนื้อตุ๊กแก โดยให้เหตุผลว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพ ด้วยความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากร้านอาหารต่างๆ ในเมืองใหญ่ ทำให้ฟาร์มเลี้ยงตุ๊กแกผุดตามขึ้นมาเพื่อรองรับความต้องการตอนนี้
      
       ตุ๊กแกส่วนใหญ่จะขายในราคาตัวละ 20,000-40,000 ด่ง (1.2-2.5 ดอลลาร์) ขึ้นอยู่กับน้ำหนัก ซึ่งโดยทั่วไปจะมีน้ำหนักราว 100-180 กรัม
      
       แต่ราคาอาจเพิ่มขึ้นเป็นสองหรือสามเท่าหากผู้ซื้อมีความเชื่อว่าสีผิวของตุ๊กแกเป็นตัวกำหนดประสิทธิภาพที่จะไปส่งเสริมในเรื่องสมรรถภาพทางเพศสำหรับผู้ชาย ช่วยผ่อนคลายความเหนื่อยล้า และรักษาโรคระบบทางเดินหายใจ
      
       นายฮวี่งหง็อกบิก (Huynh Ngoc Bich) เจ้าของฟาร์มตุ๊กแกใน จ.อานซยาง (An Giang) ในเขตที่ราบปากแม่น้ำโขงกล่าวว่า สัตว์เลื้อยคลานพวกนี้สามารถเลี้ยงในกรงได้โดยไม่มีผลกระทบแต่อย่างใด และผสมพันธุ์วางไข่ได้เช่นเดียวกับที่ทำในสภาพแวดล้อมธรรมชาติ
      
       ตุ๊กแกตัวเมียสามารถวางไข่ได้ 3 ครั้งต่อปี และวางไข่ครั้งละ 5-8 ฟอง นายบิกกล่าว
      
       พื้นที่ถัดไปจากแหล่งชุมชนเมือง ฟาร์มตุ๊กแกต่างผุดขึ้นมาอย่างมากมาย ทั้งใน จ.อานซาง จ.ด่งท้าป (Dong Thap) และ จ.ลองอาน (Long An)
      
       นายเหวียนวันเกย ( Nguyen Van Coi) จากนิคมหนุยโวย (Nui Voi) จ.อานซยาง กล่าวว่า เขามีที่อยู่ขนาด 3,500 ตารางเมตร เลี้ยงตุ๊กแกไว้อย่างน้อย 500 ตัว ที่พร้อมจะนำไปต้ม ย่าง หรือแล่เนื้อเพื่อนำไปปรุงอาหาร
เดือน ก.ย.2552 หลายปีมานี้มีการค้นพบตุ๊กแกสายพันธุ์ใหม่ๆ ในเวียดนามจำนวนมาก สัตว์เลื้อยคลานพวกนี้ได้กลายเป็นเมนูจานเด็ด เริ่มมีการเพาะเลี้ยงอย่างแพร่หลายส่งป้อนชาวเปิบพิสดาร
ในภาคใต้เวียดนามมมีการทำฟาร์มเลี้ยงตุกแกหลากหลายสายพันธุ์ ยิ่งตัวแปลกๆ สีสันแปลก ก็ยิ่งมีสรรพคุณทางยาสูงดีและราคาแพง 
       นอกจากนั้นเขายังมีตราสินค้าเป็นของตัวเองในชื่อ “Gecko Bay Nui” มาจากคำว่า “Bay Nui” หรือภูเขาเจ็ดลูก ซึ่งที่เป็นชื่อที่ได้รับความนิยมทั่วทั้งจังหวัด
      
       ตุ๊กแกโตเต็มที่มีขนาดยาวประมาณ 22 เซนติเมตร มีความสามารถในการเกาะเกี่ยวและไต่ไปตามพื้นผิวต่างๆ มักจะออกหาอาหารในเวลากลางคืน และเชื่อกันว่าตุ๊กแกมีตาที่ 3 อยู่บนหัวที่ช่วยในการเปลี่ยนสีตามสภาพแวดล้อม ผิวตุ๊กแกจะมีสีเทาแซมสีน้ำตาลแดง และมีจุดแดงกระจายอยู่ สามารถทำให้สีผิวเข้มขึ้นหรืออ่อนลงได้
สุดท้ายตุ๊กแกกลายเป็นอาหารป่าอีกจานที่สร้างสีสันและความท้าทายแปลกใหม่ให้กับประสบการณ์การกินที่ไม่เหมือนใครในเวียดนาม
                                           

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

คุณว่ากษตรมีความสำคัญหรือไม่