แนะนำให้อ่าน

วันจันทร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2555

การปลูกแก้วมังกร

การปลูกแก้วมังกร
 
สภาพดินและภูมิอากาศที่เหมาะสมแก่การปลูกต้นแก้วมังกร
  ต้นแก้วมังกรสามารถปลูกได้ในทุกสภาพดินเช่น ดินปนทราย,ดินเหนียว,ดินลูกรังเป็นต้น สำหรับดินเหนียวและ
ดินลูกรังจำเป็นจะต้องมีการปรับหน้าดินด้วยการใส่ปุ๋ยคอกและแกลบดำ อีกประการหนึ่งต้นแก้วมังกรเป็นต้นไม้
ที่ชอบอาศัยอยู่ในดินโปร่ง ร่วนซุย ไม่แน่นจนเกินไป และสามารถระบายน้ำได้ดี
 

ด้วยความที่แก้วมังกรเป็นพืชตระกูลตะบองเพชรจึงเป็นพืชที่ชอบอากาศร้อนและแดดจัดในการปลูกแก้วมังกรนั้น
จึงควรเตรียมพื้นที่ให้อยู่ที่โล่งแจ้งไม่มีร่มเงาของต้นไม้อื่นมาบังแก้วมังกรจะสามารถเจริญเติบโตได้ดีและออกดอก
ออกผลได้อย่างน่าพอใจ
 

เมื่อ ปลูกแก้วมังกรได้ 8 เดือน – 1 ปี ก็จะเริ่มให้ผลผลิตประมาณ 30ผลต่อหนึ่งค้าง ปีที่ 2 ประมาณ 50ผลต่อหนึ่งค้าง ปีที่ 3ประมาณ 100 ถึง 200 ผลต่อหนึ่งค้าง ปีที่4- 15 ประมาณ 300 ผลต่อหนึ่งค้างขึ้นไป  ขนาดของผลโดยเฉลี่ย3-4 ผลต่อหนึ่งกิโลกรัม หากต้องการให้ผลผลิตออกทั้งปีก็สามารถทำได้โดยใช้หลอดไฟขนาด 200 วัตต์หนึ่งดวงต่อเสาสี่เสา เปิดไฟตั้งแต่เวลา 19.00 ถึง 5.00 น. ติดต่อกันทุกคืนเป็นเวลา 15 คืน ตาดอกก็จะเริ่มสร้างขึ้นมา คลำดูที่ตาใต้หนามจะรู้สึกได้หลังจากนั้นอีกประมาณ 5 วัน ดอกก็จะพัฒนาเติบโตขึ้นเรื่อยๆ จนอายุ ได้ 15 วัน ก็จะบานและผสมติดอีก 30 วัน ก็จะเริ่มสุกและเก็บผลได้

วิธีการปลูก สามารถปลูกได้สองรูปแบบได้แก่

1. ปลูกในกระถาง (ใช้ต้นมังกร 1-2 ต้นต่อหนึ่งหลัก)

2. ปลูกบนดินหรือพื้นที่บริเวณกว้าง(ใช้ต้นมังกร 4 ต้นต่อหนึ่งหลัก)

**การปลูกในกระถางเป็นการปลูกเพื่อไว้ประดับหรือเป็นไม้มงคลเท่านั้น


โรคและแมลงที่พบ
โรคโคนเน่า ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคโคนเน่า เนื่องจากการให้น้ำมากจนเกินไปดังนั้นผู้ปลูกควรระวังการให้น้ำ และควรให้น้ำในอัตราที่เหมาะสม หากเกิดโรคแล้วให้ปาดเนื้อที่เน่าออกแล้วนำปูนแดง(ปูนทาหมาก)ทาที่แผลหรือ ใช้ยาป้องกันเชื้อราทาก็ได้
ศัตรูตัวฉกาจของแกว้มังกรก็คือ เจ้ามดคันไฟกัดยอดอ่อน หากมีมดมาก่อกวนให้ใช้ยาฆ่ามดกำจัด ตัวอย่างยี่ห้อยาเช่น ซันเจี่ย ,เซฟวิน85, คลุก40 ,หรือฟูราดาน
การปลูกในกระถาง

อุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการปลูก

1.ท่อน้ำทิ้งข้างในกลวงหน้ากว้าง4 นิ้ว ยาว 1.3 เมตร(หรือเสาไม้ก็ได้)
2.กระถางหน้ากว้าง 50 ซ.ม.
3.ค้างด้านบนอาจทำจากไม้หรือปูนเป็นรูป 4 เหลี่ยมจัตุรัส กว้าง x ยาว 30 ซ.ม
4.ขุยมะพร้าว
5.ดิน
6.เชือกฟาง
วิธีการปลูก
1.ใช้เสาตั้งเป็นหลักในกระถาง
2. ใส่ขุยมะพร้าวรองก้นกระถาง เพื่อให้น้ำถ่ายเทได้ดีในอัตราส่วน1ใน3ของปริมาตรกระถาง จากนั้น
นำดินสำเร็จรูปผสมกับขุยมะพร้าวหรือแกลบดำ ใส่ลงไปในกระถางจนถึงขอบกระถาง
3.นำต้นแก้วมังกรมาปลูกให้ชิดกับเสาแล้วใช้เชือกฟางมัดต้นแก้วมังกรให้ติดกับเสาไม่ต้อง(มัดให้แน่นมาก
ควรผูกไว้จนกว่าต้นแก้วมังกรจะเจริญเติบโตจนพ้นหัวเสา
4.จากนั้นนำดินมากลบด้านบนของกระถางเป็นอันเสร็จ
**ต้นแก้วมังกร เป็นสามเหลี่ยมแต่จะมีอยู่ด้านหนึ่งที่เป็นด้านแบน ดังนั้นเวลาผูกต้นแก้วมังกร ให้จับด้านแบนของต้นเข้ากับหลักเพราะว่าด้านแบนเป็นด้านที่จะออกราก

การปลูกในพื้นที่บริเวณกว้าง


  อุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการปลูก
1.ท่อน้ำทิ้งข้างในกลวงหน้ากว้าง 6 นิ้ว ยาว 2 เมตร(หรือเสาไม้เนื้อแข็งก็ได้)
2.ไม้สนหรือไม้ไผ่ลำปล้องใหญ่(ใช้เป็นเสาเข็ม)
3.ค้างด้านบนอาจทำจากไม้หรือปูนเป็นรูป 4 เหลี่ยมจัตุรัส กว้าง x ยาว 30 ซ.ม
4.ปูน
5.ดิน
6.เชือกฟาง
วิธีการปลูก
1.ใช้เสาท่อน้ำทิ้งข้างในกลวง ตั้งเป็นหลัก
2.ขุดดินลึกลงไป 30 ซ.ม.ใช้ไม้สนหรือไม้ไผ่ลำปล้องใหญ่ เป็นเสาเข็มยาว 60 ซ.ม. ตอกลึก ลงไปในดิน 30 ซ.ม.
โผล่จากดิน 30 ซ.ม. จากนั้นนำหลักมาตั้งบนเสาเข็มที่โผล่แล้วเทปูนลงในเสาประมาณ 1 กระป๋องปูน เพื่อให้ปูนยึดหลักและเสาเข็มเข้าด้วยกัน
3.ฟันให้เป็นโขดรอบหลักลักษณะคล้ายฝาชี จากนั้นก็นำต้นแก้วมังกร  4ต้น มาปลูกลง 4 ด้านของหลัก โดยใช้เชือกฟางมัดแบบหลวมๆต้องมัดจนกว่าจะพ้นหัวหลัก
4.จากนั้นนำดินข้างๆโขดมากลบบนต้นที่ปลูก แต่ลักษณะยังคงคล้ายฝาชี การทำโขดแบบฝาชี เผื่อให้น้ำสามารถไหลผ่านโดยไม่ขังอยู่ที่โคนต้น ซึ่งอาจเป็นสาเหตุ ทำให้เกิดโรคโคนเน่า
5.ใช้ฟางปิดรอบโขดเป็นอันเสร็จ
**ต้นแก้วมังกร เป็นสามเหลี่ยมแต่จะมีอยู่ด้านหนึ่งที่เป็นด้านแบน ดังนั้นเวลาผูกต้นแก้วมังกร ให้จับด้านแบนของต้นเข้ากับหลักเพราะว่าด้านแบนเป็นด้านที่จะออกราก 
ข้อแนะนำการให้ปุ๋ยเคมี -อินทรีย์ ตราบัวทิพย์

1.ใส่ปุ๋ยทุก 15 วัน ใส่ครั้งละ 2 – 4 ช้อนโต๊ะ เลือกใช้ปุ๋ยเคมี -อินทรีย์ ตราบัวทิพย์ สูตร 2 หลังจากใส่ปุ๋ยแล้วต้องรดน้ำติดต่อกันเป็นเวลา 3วัน (วันละครั้งเช้าหรือเย็นก็ได้) ถ้ามีปุ๋ยคอกเช่นมูลไก่ หรือ มูลวัวก็ใช้ได้ และให้ใส่เดือนละ 1 ครั้ง

2. เมื่อปลูกได้เป็นระยะเวลา 6  เดือน ให้เลือกใช้ปุ๋ยเคมี -อินทรีย์ ตราบัวทิพย์ สูตร 2

3. บางครั้งให้ใช้สาหร่ายสกัดผสมน้ำรดเพื่อช่วยเร่งในการเจริญเติบโต และอาหารเสริมต่างๆด้วย

4.ต้องฉีดยาเชื้อราคลุมเวลาฝนตกหลายวันติดกัน หรือช่วงที่ต้นมังกรติดลูก แล้วฝนตกชุก เพราะถ้าไม่ฉีดอาจจะทำให้ดอกร่วง ติดผลน้อย หรืออาจเป็นโรคแอนเทคโนได้

5.ควรใช้ปุ๋ยทางใบ(ปุ๋ยเกล็ด)เพื่อช่วยเร่งการเจริญเติบโตของต้นแก้วมังกร ให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น ปุ๋ยเคมี -อินทรีย์ ตราบัวทิพย์ สูตร 2

6.ควรใช้ยาสารเร่งประสิทธิภาพ (ยาจับใบ ) ทุกครั้งที่ฉีดพ่นปุ๋ยหรือยาฆ่าแมลง เพราะผิวของต้นแก้วมังกร มีลักษณะมันและลื่นทำให้ยาและปุ๋ยไม่สามารถจับติดกับต้นได้ดี
การรดน้ำ

ให้รดน้ำเพียง 1 ครั้ง ภายใน 2 - 3 วัน และไม่ควรรดมากเกินไปเพราะอาจทำให้เป็นโรคโคนเน่าได้

ที่มาข้อมูล : http://kennydragonfruit.com